ใช้รถน้อยลงแต่ก็ยังคงต้องผ่อนอีกยาว แบบนี้ไม่ต่อประกันรถยนต์ ชั้น 1 ได้ไหมนะ

ประกันรถยนต์ ชั้น 1

ในช่วงระยะ 2 – 3 ปีที่ผ่านก่อนสถานการณ์โควิดจะเข้ามา ภาครัฐก็มีนโยบายเร่งผลักดันเรื่องโครงสร้างพื้นฐานทางด้านระบบขนส่งมวลชน รถยนต์ไฟฟ้าหลายสายเกิดขึ้น ทำให้การเดินทางในหลายเส้นทางสะดวกขึ้น ถึงขนาดบางคนมีรถอยู่แล้ว เลือกทำประกันรถยนต์ ชั้น 1 ไว้ด้วย ก็ยังเลือกที่จะเปลี่ยนใจหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนเป็นทางเลือกในการเดินทางแทนการขับรถ

ยิ่งบวกกับสถานการณ์โควิดที่เข้ามา ทำให้คนที่มีรถหลายคนใช้รถน้อยลงไปจากเดิมอีก เพราะแทบไม่ได้เดินทางเลย WFH เป็นหลักแต่รถซื้อมาแล้วและยังคงจะต้องผ่อนรถไปอีกระยะใหญ่ ๆ ด้วย ทำให้เริ่มลังเลว่าการต่อประกันครั้งต่อไปควรเลือกประกันแบบไหนดี จะต่อเป็นประกันรถยนต์ ชั้น 1 แบบเดิมดีหรือไม่ มาดูคำแนะนำในเรื่องนี้กัน

สิทธิ์ที่คุณจะเสียไปเมื่อไม่ต่อประกันชั้น 1

สิทธิ์ในการเลือกต่อประกันนั้นเป็นของคุณเสมอ เพราะนี่คือประกันภาคสมัครใจ คุณสามารถเลือกได้ตามที่เห็นว่าเหมาะสม แต่อย่างที่เราทราบประกันรถยนต์ ชั้น 1 นั้นให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด ถ้าครั้งหน้าเราไม่เลือกต่อเป็นประกันชั้น 1 เราจะเสียสิทธิ์ความคุ้มครองอะไรไปบ้าง

1.สิทธิ์ในความคุ้มครองกรณีรถหาย

ประกันรถยนต์ ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองในเรื่องรถหายอยู่แล้ว ถ้าคุณเปลี่ยนใจทำประกันระดับอื่นก็อาจจะเสียสิทธิ์ในความคุ้มครองส่วนนี้ไป ในกรณีนี้คุณต้องอย่าลืมว่ารถยังต้องผ่อนอยู่ สมมุติว่าซื้อรถมา 8 แสนบาทต้องผ่อน 6 ปี ผ่อนไปได้ปีเดียวประมาณ 150,000 บาท จากนั้นคุณเปลี่ยนประกัน แล้วอยู่ ๆ รถหายขึ้นมา หากเป็นเช่นนี้คุณจะต้องผ่อนต่อไปเรื่อย ๆ จนครบสัญญาโดยที่ไม่มีเงินช่วยเหลือใด ๆ เลย

2.สิทธิ์ความคุ้มครองกรณีชนจนเสียหายหนัก

ถ้าเราเป็นฝ่ายผิดเราก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งรถเราและรถคู่กรณีเอง และถึงแม้เราจะเป็นฝ่ายถูกก็ตาม เราก็ยังจะต้องเสียเวลาในการดำเนินการเรื่องค่าเสียหายต่าง ๆ หากว่าคู่กรณีไม่มีเงินมาจ่ายค่าเสียหาย ก็ยังต้องเป็นคดีความกันทำให้เราวุ่นวายอีก

3.สิทธิ์ในความคุ้มครองอุบัติเหตุที่ไม่ได้มาจากการเฉี่ยวชน

กรณีรถได้รับความเสียหายจากเหตุอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาจากการขับขี่เฉี่ยวชน อย่างจอดรถอยู่แล้วกิ่งไม้ใหญ่ร่วงลงมาใส่รถ หรือมีป้ายโฆษณาหล่นลงมาใส่รถ จนทำให้กระจกหรือตัวรถบางส่วนเสียหาย เหตุเหล่านี้ถ้าเป็นประกันชั้น 1 จะดูแลคุ้มครองอยู่แล้ว แต่ถ้าเปลี่ยนประกันเป็นระดับอื่นก็จะเสียสิทธิ์ความคุ้มครองตรงนี้ไป ทำให้คุณต้องออกค่าใช้จ่ายเอง

มีประกันแบบไหนที่พอจะแทนประกันชั้น 1 ได้บ้าง

ถึงแม้ว่าประกันชั้น 1 จะดูแลดี แต่หลายคนก็ต้องการจะลดค่าใช้จ่ายลง จึงคิดว่าจะขอเปลี่ยนไปทำประกันที่ได้ความคุ้มครองที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งที่ใกล้เคียงประกันชั้น 1 ที่สุดก็คือ ประกันชั้น 2+ ซึ่งให้ความคุ้มครองได้ใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 ที่สุดแล้ว ดูแลในเรื่องซ่อมเขาซ่อมเรากรณีรถชนกัน ชดเชยให้เมื่อรถเกิดสูญหาย หรือกรณีภัยพิบัติอุบัติเหตุที่ไม่ได้มาจากการเฉี่ยวชนก็ยังดูแลด้วย

โดยภาพรวมก็เรียกว่าประกันชั้น 2+ ก็แทบจะคล้ายกับประกันชั้น 1 เลย แต่ค่าเบี้ยประกันจะถูกกว่า เป็นหนึ่งทางเลือกที่สามารถเลือกทดแทนกันได้

ถ้าคุณยังรับมือไหว แม้จะใช้รถน้อยลงก็ตามก็อยากจะแนะนำให้ต่อประกันรถยนต์ ชั้น 1 ต่อไป แต่ถ้าคิดแล้วว่าขอเซฟค่าใช้จ่ายลงหน่อยดีกว่าก็แนะนำเลือกเป็นประกันชั้น 2+ ซึ่งพอจะทดแทนกันได้ ไม่ว่าคุณจะสนใจประกันชั้นไหนระดับไหน หากต้องการข้อมูลสำหรับช่วยในการตัดสินใจ EasyCompare เป็นผู้ช่วยคุณในเรื่องนี้ได้ รับรองว่าคุณจะตัดสินใจเลือกประกันที่ใช่ได้ง่ายขึ้นเยอะ

Dana Green